อัพเดทสถานการณ์ ‘โควิด-19’ วันที่ 14 พฤษภาคม 2563

“เห็นได้ว่า เศรษฐกิกรุงวอชิงตันยังไม่พร้อมจะเปิด ดังนั้นจึงทบทวนคำสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้าน และอาจจะยกเลิกคำสั่งหากมีข้อมูลสนับสนุนให้ดำเนินการดังกล่าว” นางบาวเซอร์กล่าว

นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน กล่าวด้วยว่า หนึ่งในเกณฑ์สำคัญที่จะใช้ในการพิจารณาการเปิดเศรษฐกิจคือ อัตราการระบาดของไวรัสจะต้องลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 14 วัน แต่จนถึงขณะนี้ ตัวเลขการติดเชื้อในกรุงวอชิงตันลดลงติดต่อกันเพียง 4 วันเท่านั้น 

สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงวอชิงตันอยู่ที่ 6,584 ราย และมีผู้เสียชีวิต 350 ราย

เกาหลีใต้ขอผ่อนปรน ‘นักธุรกิจ-ภาคเอกชน’ เดินทางเข้าไทยได้

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2563 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือ นายอี อุก-ฮ็อน (Mr.Lee Wook-heon) เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ว่า เกาหลีใต้ได้หารือถึงแนวทางการผ่อนปรนให้นักธุรกิจและภาคเอกชนของเกาหลีใต้เดินทางมาเจรจาธุรกิจในไทยได้ ซึ่งจะต้องมีการหารือกับกระทรวงการต่างประเทศถึงความเป็นไปได้ในการเดินทางเข้ามา และจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า2019 หรือ โควิด 19 (ศบค.) จะเป็นผู้พิจารณา

‘อียู’ เมินโควิด เปิดชายแดนรับนักท่องเที่ยวในฤดูร้อน

คณะกรรมาธิการยุโรป (อียู) ได้เสนอมาตรการด้านการเดินทางและท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายในการแนะนำให้ประเทศสมาชิกอียู เริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทาง และให้บริการภาคการท่องเที่ยวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่บังคับใช้มาตรการเข้มงวด  เพื่อสกัดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มาเป็นเวลา 2 เดือน

มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย กลยุทธ์โดยรวมเพื่อการฟื้นตัวในอนาคต แนวทางปฏิบัติเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวสัญจรอย่างเสรีภายในสหภาพยุโรป กรอบการทำงานเพื่อสนับสนุนการสถาปนาการขนส่งที่ปลอดภัยอย่างค่อยเป็นไปค่อยไป รวมถึงคำแนะนำที่มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้บริโภคจากการถูกยกเลิกการเดินทางอันเนื่องมาจากโรคระบาด ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการฟื้นฟูกิจกรรมการท่องเที่ยวอื่นๆ ภายใต้วิธีการปฏิบัติเพื่อสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุข

ด่วน! ไทยพบผู้ติดเชื้อ ‘โควิด19’ เพิ่ม 1 ราย ไม่พบเสียชีวิตเพิ่ม

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาลนายแพทย์ทวีศิลป์วิษณุโยธินโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19ประจำวันว่าประเทศไทยพบจำนวน

• ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,018 ราย
• ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 56 ราย
• รักษาหายเพิ่ม 6 ราย รวมผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 2,850 ราย
• ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 112 ราย

สธ. ประเมินผล ‘คลายล็อก’ 2 กิจการ จ่อชง ศบค. ก่อนเปิดเฟสถัดไป

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 นพ.ดนัย ธีวันดา รองธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังการแพร่ระบาดโควิด19 รัฐบาลได้ผ่อนปรนหรือคลายล็อกให้ 6 กลุ่มกิจการ พบว่า ผลการดำเนินงานของกิจการเหล่านี้เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ในส่วนที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจะได้รับความร่วมมือที่ดีจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการเป็นอย่างดี โดยเฉพาะร้านเสริมสวย ตัดผมของสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี อาจจะมีผลต่อการอนุญาตให้เปิดกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการตัด สระ ไดร์ในลำดับถัดไป โดยข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะถูกนำเสนอให้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เพื่อพิจารณาในลำดับต่อไป

เตรียมเคาะ ‘เลื่อนประกาศเคอร์ฟิว’ 23.00- 04.00 น.

มีรายงานข่าว จากที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ พิจารณาผ่อนคลาย การบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด -19 ) ในครั้งที่ 1/2563 วานนี้ หลังใช้เวลาหาหรือยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง ว่ามีการหยิบ เรื่องของช่วงระยะเวลาเคอร์ฟิว จาก 22.00-04.00 น. มาหารือเพื่อคลายล็อคมากยิ่งขึ้น โดยมีแนวโน้มจะขยับเลื่อนเวลา ช่วงเริ่มของการเคอร์ฟิวออกไป 1 ชม. เป็น 23.00 น. แต่คงเวลาสิ้นสุด ของเคอร์ฟิวอยู่ที่ 04.00 น. เท่าเดิม

เจ้าสัว ‘ธนินท์’ เสนอรัฐบาล ‘ปลดล็อค’ ยับยั้งเศรษฐกิจพัง

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า รัฐบาลควรปลดล็อคเมือง เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ เพราะตั้งแต่ไทยใช้นโยบายปิดเมือง 1 เดือน ได้สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งหากยังปิดล็อคต่อไป จะยิ่งสรางความเสียหายทางเศรษฐกิจจนยากจะเยียวยาให้ฟื้นกลับมาได้ในเร็ววัน

“การปิดไปเลย ปล่อยให้ล้มละลายไปเลย เวลาฟื้นจะไม่ง่าย เหมือนสร้างบ้าน ระเบิดตึก 10 ชั้นวินาทีเดียวพังหมด แต่เวลาสร้างใหม่ 10 ชั้น ต้องใช้เวลาเป็นปี นี่จึงเป็นเหตุให้อเมริกา ต้องรีบเปิด แม้จะมีปัญหา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ก็รีบเปิดเหมือนกัน เพราะถ้าปิดไปนานๆเศรษฐกิจจะพัง”

ทั้งนี้ สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ทำการศึกษาและรวบรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้มาตรการล็อคดาวน์ พบว่า ออสเตรเลีย จีดีพีหดตัว 10.4% คิดเป็นมูลค่าความเสียหายวันละ 4,800 ล้านบาท ฝรั่งเศส จีดีพีหดตัว 32% เสียหายวันละ 14,800 ล้านบาท สหราชอาณาจักร จีดีพีหดตัว 35% เสียหายวันละ 16,185 ล้านบาท มาเลเซีย จีดีพีหดตัว 58% เสียหายวันละ 26,925 ล้านบาท

ส่วนกรณีของประเทศไทยนั้น นายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประเมินว่าจะเสียหายวันละ 18,670 ล้านบาท ขณะที่สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประมาณการมูลค่าความเสียหาย โดยใช้ข้อมูลรายการย่อยขององค์ประกอบจีดีพีที่คำนวณจากด้านรายจ่าย และคำนวณจากด้านผลผลิต พบว่า จากด้านรายจ่ายจะเสียหายวันละ 15,010 ล้านบาท หรือ 32.5% ของจีดีพีต่อวันที่อ้างอิงจีดีพีปี 2562 ต่อวันอยู่ที่46,240 ล้านบาท และด้านผลผลิต เสียหายวันละ 16,460 ล้านบาท หรือ 35.6% ของจีดีพีต่อวัน

“ค่าเสียหายต่อวัน แทนที่เราจะรอให้เสียหาย เอาเงินที่จะเสียหายไปเสริมจุดแข็งประเทศ เพื่อความพร้อมยามฟ้าสว่าง ลงทุนด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน”

ทั่วโลกติดเชื้อโควิด19 ใกล้แตะ 4,400,000 ราย

ทั่วโลกติดเชื้อโควิด19 ใกล้แตะ 4,400,000 ราย ตายเกือบ 300,000 ราย โดยสหรัฐ ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 สูงสุดในโลก

‘ทียูไอ’ปลดพนักงาน 8,000 คน เซ่นพิษโควิด

ทียูไอ บริษัทท่องเที่ยวใหญ่สุดในโลก ปลดพนักงาน 8,000 คน เซ่นพิษโควิดหลังทั่วโลกใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19