จับโจรดวงตก วิ่งราวลอตเตอรี่แม่ค้า เก็บไว้ลุ้นเอง 300 ใบ สุดท้ายกินแห้ว

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋า นางนิตยา กิจชิต อายุ 65 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ บริเวณตลาดท่าเรือ ต.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ภายในกระเป๋ามีสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 17 ม.ค.2563 จำนวน 300 ใบ เงินสด 50,000 บาท ต่างหูเพชร 2 คู่ บัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 12 ม.ค. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนร้ายรายเดียวกันที่ก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋า ของผู้เสียหายอีกราย ได้โทรศัพท์มือถือไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.62

ล่าสุด วันที่ 24 ม.ค. พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก. พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ อ่อนสงค์ รองผกก.สส. พ.ต.ท..พีรพัฒน์ จิตวรธรรม รอง ผกก.ป สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวนายอนันต์ กัญญา อายุ 27 ปี พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าสตางค์ของแม่ค้าลอตเตอรี่ รถจักรยานยนต์ คันที่ใช้ในการก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณตลาดท่าเรือ ท่ามกลางประชาชนที่มามุงดูจำนวนมาก

เริ่มจาก ผู้ต้องหาขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดเอาไว้ที่ริมทางรถไฟ จากนั้นเดินข้ามทางรถไฟมาที่ตลาดนั่งดูพอเห็นแม่ค้าลอตเตอรี่เผลอ กำลังพูดคุยแบ่งกับข้าวมื้อเที่ยงกับเพื่อแม่ค้าด้วยกัน ผู้ต้องหา ได้เดินตรงเข้าไปด้านหลังกระชากกระเป๋าแล้ววิ่งข้ามทางรถไฟ ไปเอารถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป

นายอนันต์ กัญญา อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ เคยเป็นคนเก็บเงินกู้รายวัน ตอนหลังมีการกวาดล้างเงินกู้ จึงไม่มีงานทำ อาศัยที่ตนเองเคยมาเก็บเงินกู้ที่ตลาดท่าเรือจึงรู้เส้นทางเป็นอย่างดี และเคยเห็นว่า ผู้เสียหายมีเงินและทรัพย์สินมาก จึงมานั่งรอ พอสบโอกาสจึงได้ลงมือก่อเหตุ โดยก่อนจะมาก่อเหตุกับแม่ค้าลอตเตอรี่ ได้ไปวิ่งราวกระเป๋าผู้เสียหายอีกราย แต่ได้ทรัพย์สินไม่มาก จึงมาก่อเหตุอีก

“เงินที่ได้ไปมีเพียง 30,000 บาท ส่วนลอตเตอรี่ 300 ใบ ไม่ได้เอาไปขาย แต่เอาไว้ลุ้นเอง แต่พอไปตรวจแล้ว ปรากฏกว่าไม่ถูกรางวัลเลย ส่วนต่างหูและแหวนทอง ได้นำไปขายแล้วพบว่าเป็นของปลอม เงินที่ได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัวและเสพยาเสพติด การก่อเหตุจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงสูงอายุ เพราะจะได้ติดตามไม่ได้หลังก่อเหตุ”

ด้าน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ กล่าวว่าหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนติดตามคนร้าย ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนพบว่า คนร้ายหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักใน จ.ลพบุรี และอยากฝากให้ผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายก่อเหตุที่ในลักษณะนี้มาดูตัวผู้ต้องหาได้ เพราะเชื่อว่า น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่.